ถึงเวลายกระดับปัญญาประชาชนประชาชน + ปัญญา = ประชาเมธีสังคมควรได้รับการยกระดับประชาชนให้เป็นผู้ที่ดำเนินชีวิต ด้วย “ปัญญา” คือดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุผล ยึดมั่นในหลักการ และใช้ความคิดที่ลึกซึ้งในการดำเนินชีวิต ประชาชนควรจะกลายเป็น “ประชาเมธี” หรือเป็นนักปรัชญาที่สร้างโลกทัศน์ของตนและดำเนินอย่างสอดคล้องตลอดทาง เป็นคนที่สามารถให้เหตุผลได้กับการกระทำของตนและไม่หลงติดอยู่กับความงมงาย ไร้เหตุผล
ถึงเวลาแห่งการฉุกคิดร่วมกันแล้วว่า การที่คนในสังคมยอมรับในสิ่งใด ควรให้เขายอมรับบนพื้นฐานของเหตุและผลอย่างแท้จริง มิใช่การยอมรับบนพื้นฐานความกลัว การยอมรับเพราะเชื่อตาม ๆ กันมาโดยขาดการพิสูจน์ การยอมรับโดยมิได้อยู่บนพื้นฐานของความงมงายในสิ่งไร้สาระ แต่ต้องสอนให้คนในสังคม “คิดเป็น ทำเป็น ประยุกต์ใช้เป็น” ในทุก ๆ สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ ให้ทุกคนมีปรัชญาการมองโลกที่สอดคล้องกับความดีงามในการดำเนินชีวิต และมีความมุ่งมาดปรารถนาที่จะค้นพบตัวเอง ค้นพบชีวิต ค้นพบความหมาย และมีความปรารถนาจะเป็นผู้ที่ยกระดับปัญญาของตนเองตลอดชีวิต
สังคม แห่งประชาเมธี จึงควรเป็นสังคมที่เปิดโอกาสและเอื้อให้คนสามารถสร้างโครงสร้างความคิดของตน ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตนเองทำ สิ่งที่ตนเองพูด หรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตน ไม่ปล่อยให้ประชาชนดำเนินชีวิตไปตามอารมณ์ความรู้สึก หรือความไม่สามารถคิดให้ลึกซึ้งได้หรือต้องเรียนรู้จากบทเรียนประสบการณ์ ชีวิต จนกระทั่งแก่เฒ่าจึงสรุปเป็นปรัชญาการดำเนินชีวิตของตนเองได้ สังคมควรมีอิสรภาพโดยเฉพาะอิสรภาพในด้านความคิดและเสรีภาพทางปัญญา ควรเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคม เริ่มตั้งแต่เด็กเล็กๆ สามารถเติบโตด้วยปัญญาและก้าวสู่การเป็น “ประชาเมธี” ได้ทุกทั่วตัวคนเมื่อถึงวัยแห่งความเดียงสา
No comments:
Post a Comment