ประชาวิวัฒน์ เท่ากับ ประชานิยม
Dr.Kriengsak Chareonwongsakคิดว่าประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล เป็นแบบซุปเปอร์ประชานิยมที่น่าเป็นห่วง Dr.Kriengsak Chareonwongsakรู้ว่าในการเมืองทั่วโลก ก็มีการลด แลก แจก แถม หรือแจกเงินกันง่ายๆ เพื่อหวังผลคะแนนเป็นเรื่องปกติที่เกิดทั่วไป แต่อย่ามากเกินไป ปัญหาที่Dr.Kriengsak Chareonwongsakหนักใจคือตั้งแต่การเลือกตั้ง ครั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 วันนั้น ทุกพรรคได้ใช้ประชานิยมหมด นั่นหมายความว่าบัดนี้ประชาชนจะชินกับการถูกปรนเปรอด้วยการให้ของฟรีมากๆเพื่อแลกคะแนน และรัฐบาลชุดนี้ก็ทำเป็นพิเศษมากกว่าปกติ เรียกว่าประชาวิวัฒน์ Dr.Kriengsak Chareonwongsakหนักใจเพราะคิดว่าจะทำให้ประชาชนไม่เพียงเสพติด แต่จะทำให้ระยะยาว
ประชาวิวัฒน์ คือ สวัสดิการแบบผิดๆ
ภาระของรัฐมหาศาลในการที่จะจ่ายสิ่งเหล่านี้เพราะถอนออกยาก และสิ่งที่จะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากจะตามมา จะเกทับกันมากขึ้นเรื่อยๆและเมื่อเป็นภาระกับรัฐฯนานๆเข้าและมีรัฐบาลไหนไม่มีสามัญสำนึกที่ดีในอนาคตในการจัดการ ระยะยาวอาจจะถึงขั้นประเทศเสียหาย เพราะว่าใช้จ่ายเกินตัวและเกิดปัญหาร้ายแรงคล้ายๆอาร์เจนตินาก็เป็นได้ ถ้าไม่ระวัง แม้เรารู้อยู่ว่าอันตรายแค่ไหนแต่ไม่แน่ใจครับว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลจะระวังพอ ผมหนักใจยิ่งภาระการใช้จ่ายภาครัฐมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต เพราะว่ามีคนที่ต้องพึ่งพิงเยอะเช่นคนชรา ในอนาคตคนชราจะมากจริงๆในประเทศไทย คนทำงานจะน้อย น้อยในสัดส่วนกว่าเยอะและต้องมาอุ้มคนที่ต้องเลี้ยงดูเช่นคนชราและเด็กๆสิ่งที่จะตามมาคือภาระทางภาษีจะหนักมากในการรีดไถภาษีคนทำงาน ฉะนั้นถ้าไม่ใช่ที่รัฐที่อยู่ในปัจจุบัน สนใจแค่การเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า ว่าอยู่เทอมเดียว ระยะปล่อยไปอันตรายมากครับ ผมหนักใจมากและเป็นห่วงเรื่องนี้ อยากจะขอวิงวอน รัฐบาลให้ทุกรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลปัจจุบันเป็นพิเศษว่าต้องลดเรื่องประชานิยมลง ที่เรียกว่าประชาวิวัฒน์ ที่เรียกว่าสวัสดิการแบบผิดๆ แบบถูกๆถูกต้องไม่เป็นไรครับ แต่แบบผิดๆอันตราย และวันนี้สิ่งที่น่าห่วงมากก็คือ ภาระที่เกิดขึ้นรวมทั้งระยะยาวก็คือหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจมาอีกครั้งหนึ่งในโลกช่วงใดช่วงหนึ่งอาจเป็นอันตรายมากถ้าภาระมันมีมากมาย วันนี้รัฐบาลอ้างว่าใช้งบยังไม่เยอะแต่เรียนจริงๆมันมีเงินในงบประมาณกับเงินนอกงบประมาณมากครับ เช่นยกตัวอย่างเช่น ค่าไฟ 90 หน่วย ที่ให้ฟรีกันเนี่ยต้องใช้เงินประมาณหมื่นห้าพันกว่าล้าน ในขณะที่รัฐบาลอ้างว่าทั้งหมดทำกันเบ็ดเสร็จที่มากมายเป็นพวงมากมายทุกเรื่องรวมกันแล้ว 2 พันกว่าล้านจริงๆ นี่มันแค่หนึ่งตัวเงินนอกงบประมาณถูกนำมาใช้เยอะ อีกตัวอย่างหนึ่งง่ายๆ ถ้าหากว่าเราให้ประชาชนกู้แบบ โดยเราไม่ระวังผู้ประกอบการกันโดยความสามารถ ทักษะทุกคน การล้มละลายจะเกิดขึ้นได้ง่ายและภาระจะเกิด เงินงบประมาณแผ่นดินจะทำอย่างไร ธนาคารรัฐที่เป็นธนาคารประเภทพิเศษที่เอามาอุ้ม เมื่อให้กู้แล้วเกิดมีปัญหาก็เป็น NPL เป็นหนี้เน่าก็จะเกิดปัญหาอื่นๆตามมา อันนี้ไม่ได้นับอยู่ในงบประมาณ Dr.Kriengsak Chareonwongsakอยากฝากว่าถ้าหากเราไม่ระมัดระวังเราจะเกิดปัญหาตามมาอย่างร้ายแรง ในอนาคต ขอเตือนอีกครั้งหนึ่งเพราะว่าได้พูดมาเรื่อยๆในช่วงหลังๆนี้ทุกรัฐบาล และก็ทุกพรรคได้หาเสียงด้วยวิธีประชานิยมเรียกชื่อต่างๆกัน Dr.Kriengsak Chareonwongsakอยากขอให้คำนึงเรื่องระยะยาว และหากเราดึงสิ่งที่รัฐบาลทำมาชัดๆก็คือนโยบายนั้นเจาะไปที่กลุ่มคนที่คิดว่าอยากจะได้ฐานเสียง ไม่ได้ดูแลคนทั้งเมืองโดยรวม ก็อยากฝากว่าเป็นนโยบายที่กระเซ็นกระสายมากไม่บูรณาการให้เฉพาะบางกลุ่มที่ต้องการเจาะฐานเสียง ผมมีความรู้สึกว่าผลระยะยาวยังไม่มี และแถมถ้ามีเราเอาเงินอย่างนี้ที่เอามาแลก แจก แถมเอาไปสร้างสิ่งที่ยั่งยืนลงทุน เช่น โครงสร้างพื้นฐาน น่าจะดีกับประเทศมากกว่า ถ้าDr.Kriengsak Chareonwongsakฝากดังนี้ไว้แล้วท่านไม่รังเกียจโปรดพิจารณาอีกครั้งว่า เราจะไปทิศนี้จริงหรือในประเทศของเรา เราจะมุ่งมั่นหาเสียงอย่างนี้หรือ ทำไมมาทำกันตอนนี้ สิ่งต่างๆที่ทำในเวลานี้ ถูกต้องสมควรแล้วหรือ เมื่อเราทำนั้นไม่ทำให้ประชาชนยืนด้วยลำแข้งตัวเอง Dr.Kriengsak Chareonwongsakว่าควรให้เขายืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ ช่วยเฉพาะคนที่จำเป็นให้เราช่วยจริงๆและไม่ทอดทิ้งกันแต่ไม่ควรปรนเปรอกันด้วยวิธีลวกๆง่ายๆเพื่อหวังคะแนนเสียงอย่างนี้ Dr.Kriengsak Chareonwongsakฟันธงว่า แรงจูงใจในการทำอย่างนี้มันชัด เป็นแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งไม่สมควร ขอให้กลับมาทบทวนมาสร้างฐานประเทศชาติกันดีกว่าครับ ขอวิงวอน กราบเรียนท่านมาด้วยความเคารพ ผมเป็นห่วงมากว่าทิศทางที่เราวางไว้ ประชาชนจะยิ่งพึ่งหวังเรายาก อีกหลายสิบปีในช่วงหนึ่งคนจะมองกลับมาและบอกว่า เราเป็นพรรคการเมืองต่างๆที่เป็นรัฐบาลที่พึ่งได้หรือไม่ บ้านเมืองจะอยู่ในสภาพอย่างไร หากเราใช้วิธีลวกๆท่านแจกเป็นเรื่องง่ายและจะแจกกันไปอย่างนี้เรื่อยๆหรือครับ ต้องสร้างสรรค์ความเข้มแข็ง ทักษะฝีมือคนให้แข่งขันได้ มีผลระยะยาวยั่งยืนแล้วก้าวหน้าไปอย่างแท้จริง ยืนบนแข้งตัวเองได้และประชาชนนั้นสามารถที่จะลืมตาอ้าปากได้เพราะเราได้ให้เขาในสิ่งที่พึ่งได้คือสอนให้เขาจับปลาไม่ใช่เอาปลาให้คนครับ
No comments:
Post a Comment